รายการ ฉลองครบรอบ 125 ปี สโมสรรอยัล อันท์เวิร์ป
เวลา 01.00 น. วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2548
ผู้ทำประตู
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
11′ รุด ฟาน นิสเตลรอย 0 – 1
15′ พอล สโคลส์ 0 – 2
26′ รุด ฟาน นิสเตลรอย 0 – 3 (จุดโทษ)
31′ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 0 – 4
44′ รุด ฟาน นิสเตลรอย 0 – 5
61′ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 1 – 6
รอยัล อันท์เวิร์ป
51′ ฟรองซิส เซเฟรินส์ 1 – 5 (จุดโทษ)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามในการเดินทางไปอันท์เวิร์ปในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 125 ปี ของสโมสรรอยัล อันท์เวิร์ป พันธมิตรทางด้านธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งนักเตะไปหาประสบการณ์กับอันท์เวิร์ปหลายต่อหลายคน เช่น ลุค แชดวิค, จอห์น โอเชีย, ตง ฟางซู เป็นต้น
เริ่มเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย พอล สโคลส์ โยนบอลมาหน้าประตูให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งเหน่งๆ บอลไปแฉลบขาผู้เล่นกองหลังอันท์เวิร์ปเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู และเป่าว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำฟาวล์ไปก่อนแล้ว
นาทีที่ 8 รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ยิงเหน่งๆ แต่ติดผู้รักษาประตูออกหลังไป พอล สโคลส์ เตะมุมบอลลอยโด่งมาหน้ากรอบเขตโทษ เวย์น รูนี่ย์ วิ่งเข้ามาวอลเลย์ แต่บอลลอยโด่งออกไปไกล
นาทีที่ 12 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากพอล สโคลส์ ส่งบอลให้โรนัลโด้ ลากขยับขึ้นไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจะไหลบอลตัดผ่านไปหน้าประตูให้รุด ฟาน นิสเตลรอย ยิงเข้าไป
นาทีที่ 15 ผู้เล่นรอยัล อันท์เวิร์ป ทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษด้านขวา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉวยโอกาสเล่นเร็วบอลไปเข้าเท้าพอล สโคลส์ ยิงไกลในระยะ 30 หลา บอลพุ่งผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสวยงามให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำห่างเป็น 2-0
นาทีที่ 18 แกรี่ เนวิลล์ ทุ่มไกลให้รุด ฟาน นิสเตลรอย หลุดเดี่ยวกระชากบอลเข้าไปทำประตู แต่ทำได้ไม่ดี วิลล็อคซ์ ผู้รักษาประตูอันท์เวิร์ปตะครุบบอลเอาไว้ได้
จากนั้นรุด ฟาน นิสเตลรอย ได้บอลในกรอบเขตโทษอีกครั้งจังหวะแตะบอลหลบผู้รักษาประตู โดนทำฟาวล์ล้มลงไป และลุกขึ้นมายิงจุดโทษเป็นประตูที่สามให้กับทีมนำห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 26
ในนาทีที่ 32 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูหนีห่างเป็น 4-0 จากจังหวะที่เวย์น รูนี่ย์ ส่งบอลให้โรนัลโด้ ล็อคหลบผู้เล่นกองหลังของอันเวิร์ป ก่อนยิงไกลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
ก่อนหมดเวลาเพียง 1 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษจากการทำฟาวล์คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเป็นรุด ฟาน นิสเตลรอย ที่ยิงฟรีคิกบอลแฉลบกำแพงเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นลูกแฮตทริกของเขาในเกมและเป็นประตูที่ 5 ให้กับทีม
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 5 นาทีเจ้าถิ่นรอยัล อันท์เวิร์ป ก็มาได้จุดโทษจากการทำฟาวล์ของริโอ เฟอร์ดินานด์ เกี่ยวขาเฟอร์แยนส์ ล้มลงไป ก่อนเซเฟรินส์ จะยิงจุดโทษให้ทีมไล่ตามมาเป็น 1-5
นาทีที่ 60 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูนำเป็น 6-1 จากเวย์น รูนี่ย์ ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะส่งบอลไปทางเสาสองให้ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ยิงเข้าประตูไป
รอยัล อันท์เวิร์ป เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกโดยถอดเอาเซเฟรินส์ ออก และส่งตง ฟางซู ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 64 และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ส่งอลัน สมิธ ลงมาแทนดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ในนาทีที่ 66 จูเซ็ปเป้ รอสซี่ แทนโรนัลโด้ และริชาร์ดสัน แทนจอห์น โอเชีย ในนาทีที่ 70
นาทีที่ 73 รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ยิงฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษอีกครั้ง บอลทะลุผ่านกำแพงและเกือบมุดเสาแรกแต่วิลล็อคซ์ ผู้รักษาประตูยังไวล้มตัวปัดบอลออกหลังไป
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถอดแกรี่ เนวิลล์ ออกและส่งฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ ลงมาแทนในนาทีที่ 74
ช่วงท้ายเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่นในสนามเพียง 10 คน เมื่อเวย์น รูนี่ย์ ต้องเดินออกจากสนามไปหลังได้รับบาดเจ็บ แต่รอยัล อันท์เวิร์ป ก็ทำอะไรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ จบเกมทีมปีศาจแดงเอาชนะไป 6-1 ก่อนเตรียมความพร้อมเปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับทีมเดเบรซินี่ แชมป์จากฮังการี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
รอยัล อันท์เวิร์ป
แยน วิลล็อคซ์
โมฮัมเมด ซิสเซ่
สเปนเซอร์ เฟอร์บิสต์ (มารีอัส ราดู น. 46)
แซม ลาแวน
เซดริค ทอมซิน (เยนส์ โกฟาร์ตส น. 74)
เควิน แยนเซ่น (โอลิวิเย่ร์ เคลสเซ่นส์ น. 82)
อแล็ง ฟาน เมเก็ม
กันเตอร์ เฟอร์แยนส์
จิโอวานนี่ เฟโดโรว์ (โรเบิร์ต นีอาโก น. 46)
เควิน บาร์ท (คริส เดอ วิตต์ น. 74)
ฟรองซิส เซเฟรินส์ (ตง ฟางซู น. 64)
สำรอง
มารีอัส ราดู
เยนส์ โกฟาร์ตส
โอลิวิเย่ร์ เคลสเซ่นส์
โรเบิร์ต นีอาโก
คริส เดอ วิตต์
ตง ฟางซู
วิลล็อคซ์
ซิสเซ่ – เฟอร์บิสต์ – ลาแวน – ทอมซิน
แยนเซ่น – เมเก็ม – เฟอร์แยนส์ – เฟโดโรว์
บาร์ท – เซเฟรินส์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
แกรี่ เนวิลล์ (ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ น. 74)
ริโอ เฟอร์ดินานด์
มิเกล ซิลแวสตร์
จอห์น โอเชีย (คีแรน ริชาร์ดสัน น. 70)
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (อลัน สมิธ น. 66)
รอย คีน
พอล สโคลส์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (จูเซ็ปเป้ รอสซี่ น. 70)
เวย์น รูนี่ย์
รุด ฟาน นิสเตลรอย
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์
คีแรน ริชาร์ดสัน
อลัน สมิธ
จูเซ็ปเป้ รอสซี่
ฟาน เดอร์ ซาร์
ก.เนวิลล์ – เฟอร์ดินานด์ – ซิลแวสตร์ – โอเชีย
คีน
เฟล็ตเชอร์ – สโคลส์
รูนี่ย์ – รุด – โรนัลโด้
Por